สถานการณ์บ้านและที่ดิน เชียงใหม่ ขยายตัวตามความต้องการของตลาดและการแข่งขันสูง เผยคอมมูนิตี้มอลล์มาแรง ส่วนคอนโดมิเนียมใกล้อิ่มตัวแล้ว ขณะที่โรงงานอุตสาหกรรมขนาด ใหญ่กำลังจะมาลงทุนในเชียงใหม่ เงินสะพัดล้นหลามแน่นอน นายวิเชียร เชิดชูตระกูลทอง ประธานบริหารบริษัท ภราดรบ้านและที่ดิน จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงปีแรกของการดำเนินงานตามที่บริษัทฯได้ซื้อแฟรนไชส์ ERA ซึ่งเป็นเครือข่ายการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จากสหรัฐอเมริกา โดย Realogy Corps. และปัจจุบันเป็นหนึ่งในเครือข่ายการซื้อขาย อสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วน ERA ประเทศไทยยังเป็นผู้กำหนดรูปแบบการดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มาตั้งแต่ปี 2536 ด้วยการนำระบบ Exclusive Listing การใช้เทคโนโลยีเพื่อการขายบ้านมือสอง และยังเป็นบริษัทแรกที่จัดการฝึกอบรมให้แก่บุคลากรในธุรกิจทั้งผู้บริหารและการสร้างนักขายมืออาชีพจนมีผู้ประสบความสำเร็จที่ยึดเป็นอาชีพหลักเป็นจำนวนมากและถือว่าเป็นบทพิสูจน์ของ ERA ซึ่งได้เปิดหลักสูตรอบรมพนักงานขายมาแล้วกว่า 150 รุ่น ในส่วนของภราดรบ้านและที่ดินเองตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก แม้โอกาสจะมีมากแต่ก็ต้องยอมรับถึงปัญหาอุปสรรคโดยเฉพาะการที่จะต้องมาเจอคู่แข่งแบบมืออาชีพ และต้องฝึกหรือสร้างคนขึ้นมาเป็นนักขายมืออาชีพนั้นก็ต้องใช้เวลา และบริษัทเองได้วางเป้าหมายไว้ 3 ปี โดยปีต่อไปเราก็คาดหวังว่าน่าจะดีขึ้นและคาดว่าภายใน 3 ปีนักขายที่เราฝึกขึ้นมาจะต้องทันกับการเปิดประชาคมอาเซียนได้ “ในปี 2558 เมื่อกลุ่มอาเซียนเปิดเสรีแล้ว นักขายจะต้องเจอคู่แข่งระดับอินเตอร์และการเป็นนักขายมืออาชีพจะต้องทำเป็นระบบ มีการตลาดที่กว้างไกลและมีการทำวิจัยซึ่งถือเป็นนวัตกรรมด้านกระบวนการ เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ๆ อย่างแอริส โจซันอิตันที่มาทำเรื่องนี้ก็สะสมประสบการณ์มาเยอะเหมือนกัน ซึ่ง ERA เองก็เป็นมืออาชีพระดับโลก”ประธานบริหารบริษัท ภราดรบ้านและที่ดิน กล่าวและว่าหากมองในกลุ่มประเทศอาเซียนเราคิดว่ามี 2-3 ประเทศที่เป็นคู่แข่ง เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ และอาจจะมีเวียดนามตามมา เพราะฉะนั้นคู่แข่งเหล่านี้จะเก่งมากโดยเฉพาะสิงคโปร์ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลก ในเรื่องนักขายมืออาชีพ รองลงมาคือมาเลเซียที่อยู่ในอันดับ 8 ส่วนไทยจะอยู่ในอันดับ 30 เพราะฉะนั้นในปีแรกที่เราปั้นนักขายมืออาชีพของเราได้แค่นี้ก็ถือว่ายังไม่เป็นที่พอใจนัก และเรายังมีโอกาสสามารถทำให้ดีขึ้นได้และต่อไปในกลุ่มประเทศอาเซียนอาชีพบริการ ทั้ง หมอ บัญชี วิศวะและนักขายซึ่งทุกอาชีพเหล่านี้ก็ต้องปรับตัวหมด ประธานบริหารบริษัท ภราดรบ้านและที่ดิน กล่าวต่อไปอีกว่า ตอนนี้ ERA เชียงใหม่เราอบรมนักขายมืออาชีพไปแล้ว 3 รุ่น จำนวน 50 คน และได้กลุ่มคนที่จะมาร่วมงานกับเราจำนวน 25 คนส่วนที่เหลือก็เหมือนกับการสร้างผู้ประกอบการใหม่ซึ่งก็ได้เกือบครึ่งหนึ่งของคนที่เราปั้นขึ้นมา ซึ่งเป้าหมายของเราคือนอกจากสร้างคนเก่งแล้ว ธุรกิจของเราคือการสร้างอาชีพ สร้างคนให้สำเร็จเพราะถือว่าสินค้าของเราคือบ้านและที่ดินซึ่งมีมูลค่าสูง ขายตึก ขายอาคารพาณิชย์ ต่อไปขายคอมมูนิตี้มอล์ล ขายคอนโดฯ ความสามารถมันสามารถเติมได้เรื่อยๆ สินค้าพวกนี้น่าขายแต่จะต้องฝึกมากๆ ปีที่ผ่านมามูลค่าบ้านและที่ดินที่ขายมีมูลค่า 1,000 กว่าล้านบาท ซึ่งถ้าเชื่อมต่อกับคนอื่นก็เพิ่มมูลค่ามากกว่านี้ โดยในปีหน้าเราจะมีการประสานกับหน่วยงานภายนอกทั้งธนาคาร และโบรกเกอร์โดยสินค้าจะมีหลักหลายพันล้านบาทและโอกาสสำเร็จจะชัดเจนในปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา เพราะในการขายของเราใช้ความรู้ที่มีข้อมูลไว้พร้อม และมีทีมขายซึ่งปีนี้มีทีมขายเพิ่มขึ้นและทางส่วนกลางก็มาช่วยอีก ดังนั้นปีนี้คาดว่ามูลค่าการขายน่าจะมากขึ้นและหวังว่าปี 2556-2557 ก่อนเปิดประชาคมอาเซียนนักขายของเราจะมีความพร้อมมาก “เชียงใหม่ในขณะนี้จะเห็นว่ามีบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมและคอมมูนิตี้มอลล์ค่อนข้างเยอะ และที่ผ่านมาได้สำรวจลองสเตย์ ซึ่งทีมขายที่เราฝึกไว้จะขายบ้านและที่ดินที่มีมูลค่าไม่สูงตั้งแต่ 1 ล้านกว่าไม่เกิน 10 ล้านบาท แต่พอไปถึงคอมมูนิตี้มอลล์ คอนโดฯและลองสเตย์เราจะต้องใช้พันธมิตรด้วย โดยเฉพาะมีนักลงทุนจากต่างประเทศให้เราสำรวจว่ามีโรงแรมไหนจะขายบ้าง ซึ่งเราจำเป็นต้องใช้พาร์ทเนอร์ นอกจากนี้ยังมีบริษัทที่หนีน้ำท่วมมาต้องการพื้นที่ 50-100 ไร่สร้างโรงงานชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งนักขายที่เราฝึกไว้ไม่สามารถทำได้เราก็ต้องใช้พาร์ทเนอร์เรามาช่วยในเรื่องนี้ เพราะผมอยู่สภาอุตสาหกรรมผมรู้ว่าการที่จะทำโรงงานระดับอินเตอร์ได้ต้องเป็นพื้นที่ใด”นายวิเชียร กล่าวและว่า สำหรับสถานการณ์บ้านและที่ดิน เชียงใหม่ต้องยอมรับว่าขยายตัวตามความต้องการของตลาดและการแข่งขันก็ค่อนข้างสูง และที่แรงต่อมาคือคอมมูนิตี้มอลล์ซึ่งจะเห็นว่ามีการขยายตัวมากในช่วงตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา และคอนโดมิเนียมซึ่งอาจจะดูเหมือนใกล้อิ่มตัวก็ตาม และขณะนี้ก็มีลูกค้าให้หาพื้นที่สำหรับคอมมูนิตี้มอลล์เล็กๆ เพราะในเชียงใหม่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งใหม่เกิดขึ้นมากทั้งพรอมเมนาดา เซ็นทรัลเฟสติวัล บิ๊กซีเอ๊กซ์ตร้า ซึ่งลูกค้าก็ยังได้ข้อมูล และตัวต่อไปคือลองสเตย์และโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่กำลังจะมาลงทุนในเชียงใหม่ นายวิเชียร กล่าวด้วยว่า หากดูความเก่งของนักขายที่ ERA เชียงใหม่ปั้นมาจะให้ทดลองขายบ้านและที่ดินไปก่อน ยังไม่ถึงขั้นคอมมูนิตี้มอลล์หรือลองสเตย์ และขอพาร์ทเนอร์ให้ช่วยดูระดับอินเตอร์โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียนว่ามีใครสนใจมาลงทุนที่เชียงใหม่ เพราะว่าสิงคโปร์เองก็ต้องการมาลงทุนในเชียงใหม่ และก็ต้องการให้ดึงคนไปลงทุนในสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน นักลงทุนบางคนต้องการซื้อโรงแรมซึ่งก็ซื้อไปแล้ว 1-2 แห่ง ดังนั้นเราจะเน้นพันธมิตรเก่งๆที่ขายอินเตอร์ได้ ซึ่งการแข่งขันของปีนี้ถือเป็นไคล์แมกซ์สำคัญคือมีการแข่งขันมากขึ้นและโอกาสก็มากขึ้นเช่นเดียวกัน และเมื่อเปิดศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่แล้วโอกาสในการดึงการลงทุนนอกจากท่องเที่ยวและบริการแล้ว เรื่องฟู้ดส์ก็เป็นตัวนำร่องที่น่าสนใจด้วย.
ที่มา : Chiangmainews
